ผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช ในกระบวนการเพาะปลูกมันสำปะหลัง Health and Environment Effect of Herbicides in Cassava Cultivation Process
Abstract
ประเทศไทยประชาชนส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรมปัจจุบันส่วนใหญ่จะเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ เพื่อการจำหน่ายและปลูกในปริมาณมาก จึงมีความจำเป็นต้องใช้แรงงานในการดูแลเป็นจำนวนมากตามมาเช่นกัน แต่ด้วยจำนวนแรงงานที่มีอยู่อย่างจำกัดในภาคเกษตรกรรมของไทยในปัจจุบัน จึงทำให้เกษตรกรไม่สามารถดูแลกระบวนการเพาะปลูกพืชด้วยวิธีการทางธรรมชาติตามแบบดั้งเดิม ดังนั้นในปัจจุบันเกษตรกรส่วนใหญ่ที่ทำการเพาะปลูกพืชจึงได้นำเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาใช้ในกระบวนการเพาะปลูกเพื่อใช้ในการเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนในการผลิต โดยเฉพาะการลดภาระแรงงานในการดูแลกระบวนการเพาะปลูก ในการเพาะปลูกพืชปริมาณมากนั้นเกษตรกรมักจะพบกับปัญหาสำคัญเกี่ยวกับ “วัชพืช” หรือ “หญ้า” ที่มักจะเจริญงอกงามควบคู่ไปกับพืชเป้าหมายที่เกษตรกรเพาะปลูกเช่นกัน วัชพืชเหล่านี้เกษตรกรมองว่าเป็นสิ่งที่ขัดขวางการเจริญเติบโตของพืชเป้าหมาย ทำให้ผลผลิตมีปริมาณต่ำลง ด้วยเหตุนี้เกษตรกรที่ปลูกพืชในลักษณะต่างๆ จึงมีความพยายามที่จะกำจัดศัตรูพืช ประเภทหญ้า หรือวัชพืชให้หมดไปจากแปลงเพาะปลูกของตนเอง โดยการหันมาใช้วิธีการที่ง่าย สะดวกสบาย ประหยัดแรงงานในภาคเกษตร นั่นก็คือการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช (Herbicides) หรือ ที่ใช้เรียกกันโดยทั่วไปในกลุ่มเกษตรกร คือ “ยาฆ่าหญ้า”เข้ามาทดแทนแรงงานในการกำจัดวัชพืชของเกษตร ข้อมูลในปัจจุบันพบว่า เกษตรกรที่ทำการเพาะปลูกพืชประเภทต่างๆ และมีปัญหาเกี่ยวกับการกำจัดวัชพืช จะหันมาใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช หรือยาฆ่าหญ้า แทนแรงงานคนเกือบทั้งหมด เพื่อลดต้นทุนการผลิต และที่สำคัญคือนอกจากจะนำมาใช้ในการกำจัดวัชพืชในภาคเกษตรกรรมแล้วยังมีการนำมาใช้อย่างเกินขอบเขตความจำเป็น เช่น การใช้ทำลายหญ้าในบริเวณที่ไม่ใช่แปลงเพาะปลูก ในบริเวณริมถนนต่างๆ บริเวณแหล่งชุมชนไม่ว่าจะเป็นบริเวณรอบบ้านเรือนที่อยู่อาศัย หรือสำนักงานบางแห่ง ตลอดรวมทั้งบริเวณใกล้แหล่งน้ำ เป็นต้น ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในพื้นที่ต่าง ๆ
แต่อย่างไรก็ตาม ภาคเกษตรกรรม ถือเป็นภาคส่วนที่มีการนำสารเคมีกำจัดวัชพืชเข้ามาใช้ในกระบวนการเพาะปลูกมากที่สุด ข้อมูลการนำเข้าสารเคมีในประเทศไทยได้สะท้อนถึงข้อมูลการนำเข้าสารกำจัดวัชพืชในปัจจุบัน ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ผ่านมาคือในปี 2553 มีปริมาณนำเข้าอยู่ที่ 109,908 ตันและมีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็น 134,377 ตันในปี 2557 คิดเป็นการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.26 เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลแยกตามประเภทของลักษณะการใช้งานก็จะพบว่า สารที่นำเข้าเพิ่มขึ้นในอัตราก้าวหน้าสูงมากที่สุดคือ ประเภทสารกำจัดวัชพืช (Herbicides) โดยในปี 2553 มีปริมาณการนำเข้าอยู่ที่ 68,825 ตันแล้วเพิ่มปริมาณFull Text:
PDFRefbacks
- There are currently no refbacks.
journal of faculty of arts and science, Rajabhat Chaiyaphum University.